ไม่ออกกำลังกายสารอาหารประเภทไหนช่วยคุณได้?

ไม่ออกกำลังกายสารอาหารประเภทไหนช่วยคุณได้?

   หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ไม่ค่อยได้ออกกำลังกาย วันๆไม่ทำอะไรอยู่แต่บ้านนอนดูแต่ทีวี พร้อมกับการรับประทานทั้งวัน หากคุณเป็นแบบนี้แล้วล่ะก็ ฟันธงโดยไม่ต้องอาศัยหมอลักษณ์ได้เลยว่าอีกไม่ช้าไม่นาน โรคอ้วนมาเยี่ยมคุณแน่นอน ซึ่งนอกจากโรคอ้วนเกินพิกัดแล้ว คุณยังอาจอยู่ในกลุ่มเสี่ยงโรคทางหัวใจและหลอดเลือดได้อีกด้วย ทั้งนี้อาจนับรวมไปถึงผู้ป่วยที่นอนป่วยนานๆหรือเพิ่งจะฟื้นไข้ก็ได้ ดังนั้นวันนี้เรามีสูตรวิตามิน 5 ชนิดที่เหมาะสำหรับคนที่ไม่ค่อยจะได้ยืดเส้นยืดสาย อาจช่วยให้คุณห่างไกลจากโรคดังกล่าว

 

1.  Omega-3 Fatty Acids พบมากในน้ำมันปลาและน้ำมันเมล็ดลินิน (Flax seed ) ซึ่งจะให้สัดส่วนของกรดไขมันชนิด EPA สูง โดยปริมาณ EPA ที่แนะนำ / วันควรอยู่ในช่วง 250-3,000 mg. และควรระวังซักนิดหากคุณต้องทานยาต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือดอยู่ก่อน ข้อดีสำหรับ Omega-3 คือ การปรับปรุงระบบการทำงานของหลอดเลือดและหัวใจ ระบบประสาท การสืบพันธุ์ และภูมิต้านทานร่างกาย นอกจากนี้ยังมีสรรพคุณทางเภสัชวิทยาในการเป็น สารต้านการ clot ของเลือด ช่วยลดระดับไขมันในเลือด สารต้านอักเสบ บำรุงสุขภาพผมผิวและเล็บ และจุดเด่นสำคัญคือการช่วยนำส่ง Oxygen ไปยังเซลล์ต่างๆทั่วร่างกาย ซึ่งสัมพันธ์กับการลดอาการเบื่อและขี้เกียจได้

 

2. Bioflavonoid ขนาดรับประทาน 50-300 mg./ วัน ร่วมกับการทานวิตามิน C 500-3,000 mg./ วันจะให้ผลในเรื่องความ แข็งแรงของผนังหลอดเลือดฝอย ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของเลือดจากการนั่งนานๆ

3. Garlic ซึ่งจะให้สารสำคัญที่เป็นกลิ่นเฉพาะตัวของกระเทียมที่ชื่อ Allicin โดยขนาดที่แนะนำควรอยู่ระหว่าง 600-5,000 mcg./ วัน ซึ่งจะให้ประโยชน์ในแง่ของการลดการเกาะตัวของเลือด ลดความดันเลือด ลดระดับไขมันและน้ำตาลในเลือด ต้านการติดเชื้อแบคทีเรียและไวรัส และควรระวังซักนิดหากคุณต้องทานยาต้านการเกาะตัวของเกล็ดเลือดอยู่ก่อนแล้ว


4. Folic Acid ขนาดรับประทาน 400-1,000 mcg./ วัน ( หากเป็นสตรีตั้งครรภ์ควรได้รับ 600 mcg. และ 500 mcg. ใน สตรีให้นมบุตร ) ข้อดีของกรดโฟลิก คือการลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด ช่วยปรับความผิดปกติทางอารมณ์ที่ไม่รุนแรงนัก ความรู้สึกซึมเศร้า เบื่อหน่ายซึ่งอาจจะมีสาเหตุมาจากการขาดการออกกำลังกาย นอกจากนี้หากรับประทานกรดโฟลิกขนาดสูงนานๆ ควรได้รับวิตามิน B12 เพิ่มเติมเนื่องจากกรดโฟลิกสามารถบดบังภาวะการขาด B 12 ในบางรายได้


5. Chromium ขนาด 50-200 mcg./ วัน ในรูป Chromium Picolinate ซึ่งเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดในแง่การดูดซึมและให้ประสิทธิภาพสูงสุด ซึ่งจะให้ฤทธิ์ในการควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดและปรับปรุงระบบเมตาบอลิซึม ทำให้สามารถลดการอยากอาหารในผู้ที่ชอบทานขนมจุบจิบได้ นอกจากนี้ยังสามารถกระตุ้นการทำงานของระบบอินซูลินในร่างกายได้

นอกจากนี้ควรจะมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดำเนินชีวิตประจำวันของคุณด้วย โดยอาจหาวิธีออกกำลังกายทดแทนหรืองานอดิเรกที่ชื่นชอบทำ เช่น เดินขึ้น-ลงบันไดแทนการใช้ลิฟท์ ทำงานบ้าน ทำสวน ล้างรถฯลฯ ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะมีส่วนสำคัญในการเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ของคุณที่น่าเบื่อและไม่เป็นผลดีต่อร่างกาย มาเป็นนักกิจกรรมตัวยงที่มีสุขภาพดีคนหนึ่งเลยทีเดียว

 

เว็บ : https://www.hsri.or.th/people/media/food/detail/5916