น้ำมันพืชแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร
น้ำมันพืชแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร
น้ำมันพืชแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร
หลายๆครั้งที่เราไปซื้อน้ำมันพืชในซุปเปอร์มาร์เก็ต แล้วก็ต้องใช้เวลาเลือกกันอยู่นาน เพราะว่ามันมีมากมายหลายชนิดจนเลือกแทบไม่ถูก น้ำมันพืชแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันอย่างไร จะเลือกใช้ยังไงให้ถูกประเภท
น้ำมันพืช
มักจะถูกนำมาใช้ทำอาหารประเภทผัดๆทอดๆ ซึ่งก็ต้องใช้ระดับความร้อนที่แตกต่างกันในการทำอาหารเหล่านี้
น้ำมันปาล์ม
ข้อดีคืออุดมไปด้วยวิตามินอี ไม่มีกลิ่นหืน ราคาไม่แพง ให้ความร้อนเร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่น เหมาะสำหรับการทอด ทำให้อาหารกรอบนอก นุ่มใน ข้อเสียคือมีปริมาณกรดไขมันไม่อิ่มตัวซึ่งเป็นไขมันที่ดีค่อนข้างต่ำ เมื่อเทียบกับน้ำมันพืชชนิดอื่น ในขณะที่ไขมันไม่ดีอย่างกรดไขมันอิ่มตัวกลับมีปริมาณมาก เมื่อทานเข้าไปมากๆจึงอาจทำให้ปริมาณคอเลสเตอรอลในเลือดสูงขึ้นได้
น้ำมันมะกอก
เป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ มีกรดโอเลอิกซึ่งเป็นไขมันอิ่มตัวแบบเชิงเดี่ยวอยู่ค่อนข้างสูง ซึ่งกรดไขมันชนิดนี้จะเข้าไปช่วยลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี นอกจากนี้แล้วยังอุดมไปด้วย วิตามินเอ วิตามินอี และเบต้าแคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่จะไปช่วยยับยั้งการก่อตัวของเซลล์มะเร็ง ทำให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งมีสุขภาพดี
น้ำมันถั่วเหลืองและน้ำมันเมล็ดทานตะวัน
อุดมไปด้วยวิตามินอี และมีกรดไลโนเลอิกสูง จึงช่วยในการสร้างสมดุลย์ของไขมันในร่างกาย ช่วยลดลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอร์ไรด์ น้ำมันทั้งสองชนิดไม่เหมาะแก่การนำไปทอดอาหาร เพราะเมื่อเจอกับความร้อนสูง จะเกิดปฎิกิริยาเคมีจนทำให้เกิดไขมันทรานส์ และอนุมูลอิสระได้ง่าย เหมาะสำหรับการนำไปทำอาหารประเภทผัด ที่ไม่ใช้ไฟร้อนมาก หรือจะใช้ทำน้ำสลัด
น้ำมันรำข้าว
มีคุณสมบัติคล้ายๆกับน้ำมันมะกอก เป็นน้ำมันที่ดีต่อสุขภาพ มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวในระดับปานกลาง เพราะจะไปช่วยเพิ่มคอเลสเตอรอลที่ดีและสร้างสมดุลไขมันที่ดีให้กับร่างกาย นอกจากนี้แล้วน้ำมันรำข้าวยังมีสารโอรีซานนอล ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติที่ไม่พบในน้ำมันพืชชนิดอื่น ใช้ได้ดีทั้งผัดและทอด น้ำมันรำข้าวเป็นน้ำมันอีกชนิดหนึ่งที่เหมาะนำมาทำอาหารประเภททอด
น้ำมันข้าวโพด
เป็นแหล่ง วิตามินอี วิตามินเอ แกรมม่า-โทโคฟิรอล เลซิติล อุดมไปด้วยกรดไลโนเลอิก และไขมันไม่อิ่มตัวที่จะไม่ให้เส้นเลือดเกิดการอุดตัน ทนความร้อนได้สูงที่สุด เหมาะกับการทอดแบบใช้น้ำมันมากๆ ร้านอาหารประเภทฟาสต์ฟู้ดส่วนมากนิยมใช้น้ำมันข้าวโพดในการทอดเฟรนช์ฟราย
น้ำมันคาโนล่า
ข้อดีเป็นไขมันอิ่มตัวแบบเชิงเดี่ยวอย่างเช่นกรดโอลิอิก ที่มีส่วนช่วยลดคลอเรสเตอรอลในเลือดให้ลดลง และยังอุดมไปด้วย โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 ที่มีส่วนช่วยลดไขมันไตรกรีเซอไรด์ ลดการเกาะตัวของเกล็ดเลือดที่เป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดหัวใจอุดตัน สามาณถนำมาทอดอาหารได้และเกิดสารอัตรายค่อนข้างน้อย ข้อเสียคือราคาค่อนข้างแพงเพราะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งต้นคาโนล่านั้นมีการเพาะปลูกมากในแคนนาดา และประเทศยุโรป
ที่มา : https://maanow.com
ทั้งนี้ทางบริษัท เฟลเวอร์ แอนด์ อะโรเมติก กรุ๊ป จำกัด เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสารแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหาร ภายใต้การควบคุมด้วยระบบมาตรฐานคุณภาพ ISO22000:2018 มีผลิตภัณฑ์สารแต่งกลิ่นและรสชาติในอาหารที่หลากหลายแนว เหมาะสำหรับสินค้าในหลายๆประเภท เช่น ซอส เครื่องดื่ม ขนมขบเคี้ยว เบเกอรี่ และไอศกรีม เป็นต้น
หากลูกค้าท่านใด มีความประสงค์ที่จะให้ทางบริษัทฯ เราผลิตสารปรุงแต่งอาหาร ทั้งกลิ่นและรสชาติอาหารให้ สามารถติดต่อทางบริษัทฯของเราได้ ทางบริษัทฯ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับทุกท่าน หรืออุตสาหกรรมอาหารต่างๆ ที่สนใจหรือมองหาสารแต่งกลิ่นและรสชาติที่มีคุณภาพและราคาที่เหมาะสมเพื่อเสริมสร้างให้ความโดดเด่นด้านกลิ่นและรสชาติให้กับผลิตภัณฑ์ของท่าน