กลิ่น ไม่ใช่สัมผัสได้แค่จมูก แต่ผูกไว้กับสถานที่
“กลิ่น” ไม่ใช่สัมผัสได้แค่จมูก แต่ผูกไว้กับสถานที่ ประโยคนี้จริงหรือไม่ ก็คงต้องถามความรู้สึกและความทรงจำของผู้อ่านแต่ละคน แต่ที่แน่ๆ เชื่อว่าหลายคนคงเคยหวนจดจำเรื่องราวบางอย่าง ใครบางคน หรือสถานที่บางแห่ง ได้ด้วยกลิ่น! ทั้งภาพและเสียงก่อตัวเป็นรูปร่างให้เราจำได้โดยไม่ต้องพึ่งรูปถ่าย หรือพึ่งฟังก์ชัน On this day บน Facebook
กลิ่นดินหลังฝนตก
กลิ่น…ที่ทำให้เราคิดถึงฤดูฝน คือ กลิ่นดินที่ลอยขึ้นจากสนามหน้าบ้าน ไม่ก็ฟุตปาธริมถนนหลังจากฝนเพิ่งตกใหม่ๆ กลิ่นนี้มีชื่อวิทยาศาสตร์เก๋ๆ ว่า เพทริคอร์ (Petrichor) เกิดจากหลายสาเหตุ แต่ที่พูดถึงกันมากที่สุดมาจากแบคทีเรีย! มันสร้างสปอร์และพอโดนน้ำ สปอร์เหล่านี้จะลอยตัวขึ้น และบู้ม! เราสูดเจ้าพวกนี้เข้าไปนั่นเองนอกจากนี้ Smitsonianmag.com วิจัยว่า กลิ่นดินในฤดูร้อนช่วงบ่ายๆ เป็นกลิ่นที่หอมที่สุดอีกด้วย
กลิ่นร้านหนังสือ
หนอนหนังสือหลายคนคงเข้าใจโมเมนต์นี้ กลิ่นหนังสือทั้งเก่าและใหม่ที่อบอวลให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องสมุดสมัยเรียน อารมณ์แบบแซมเวล ทาร์ลี Games of Thrones กับหอสมุดแห่งซิคาเดล กลิ่นนี้มาจากสารเคมีในกระดาษ คือเซลลูโลส (cellulose) และลิกนิน (lignin) ไม่ก็จากหมึกพิมพ์ และกาวเข้าเล่ม พูดให้ติดตลกแต่ปนความจริง เชื่อดิ…มีบางคนที่ซื้อหนังสือจากกลิ่นที่ดม! มากกว่าเนื้อหาข้างในเสียอีก
กลิ่นโซนตลาดวินเทจ
ภาพที่เด้งเข้ามาความคิดแรกกับกลิ่นนี้ ก็คงเป็นบ่ายวันเสาร์อาทิตย์ที่ตลาดนัดจตุจักร กับการชอปปิงหาคอนเวิร์สเท่ๆ ยีนส์วินเทจ และเสื้อยืดวงร็อคซักตัว กลิ่นที่เหล่าวินเทจจดจำกันได้นี้ ว่ากันว่าเป็นกลิ่นของน้ำยาซักแห้งที่เอาออกยากมาก เพราะส่วนใหญ่ของวินเทจมักจะเป็นแจ็กเก็ตไม่ก็โค้ทที่ต้องซักแห้งอยู่แล้ว นอกจากนี้ กลิ่นที่ว่าก็มีสิทธิ์เป็นกลิ่นเหงื่อและกลิ่นตัวของเจ้าของเดิมที่ฝากไว้กับเสื้อผ้าตัวนั้นๆ ด้วย
กลิ่นช่องฟรีสของตู้เย็น
กลิ่นนี้ทำให้นึกขำถึงโมเมนต์สมัยเด็กๆ ที่เข้าไปในห้องครัว แอบแม่ขูดน้ำแข็งในช่องฟรีส เพราะชอบกลิ่นของมัน มีการสันนิษฐานว่ากลิ่นเหล่านี้ มาจากสารเคมีที่เจือปนอยู่ในน้ำ ซึ่งเมื่อน้ำเหล่านี้เย็นตัวกลายเป็นน้ำแข็งสารเคมีก็ยังอยู่เหมือนเดิมลอยอยู่ในอากาศทำให้เราได้กลิ่นนั่นเอง หรืออีกเหตุผลมาจากสารให้ความเย็นที่ชื่อ ฟรีออน (Freon) แน่นอนว่าเป็นสารเคมีที่เราไม่ควรกิน…ที่แม่ห้ามตอนเด็กๆ น่ะ ถูกต้องแล้ว
กลิ่นผ้าที่ซักตากแดดไว้
กลิ่นหอมอุ่นๆ ทำให้คิดถึงราวตากผ้าบ้านคุณยายกับผ้าปูที่นอนผืนใหญ่ที่พับเก็บเข้ามาในบ้าน ให้ฟีลลิ่งอบอุ่นในวันหยุด กลิ่นที่ว่านี้ ส่วนหนึ่งมาจากการทำปฏิกิริยาของแสงแดดที่เรียกว่า โฟโตไลสิส (Photolysis) กระบวนการนี้นอกจากจะสลายโมเลกุลของน้ำทำให้ผ้าแห้งแล้ว ยังทำให้สีผ้าจางลง และที่สำคัญกระบวนการนี้ก็ทำให้เกิดกลิ่นแดดที่ว่านั่นเอง นอกจากนั้นยังมีงานวิจัยที่บอกว่า กลิ่นนี้มาจากแดด UVB ที่เผาไหม้กรดไขมันของคน ซึ่งติดอยู่บริเวณเสื้อผ้านั่นเอง
กลิ่นการเดินทาง
ถ้าคุณเคยท่องเที่ยวที่ไหนซักที่ คุณคงเข้าใจว่ากลิ่นนี้เป็นยังไง กลิ่นที่ทำให้คิดถึงโมเมนต์ตอนไปเที่ยว กลิ่นที่ทำให้หวนคิดถึงที่บางแห่ง ลองจินตนาการถึงการนั่งรถไฟสุดโรแมนติก จากปารีสสู่อิสตันบูล กลิ่นเครื่องเทศท้องถิ่นข้างทาง เลมอนออยล์ กุหลาบ ส้มแทงเจอรีนและจันทน์เทศอบอวลอยู่ใน “Royal Flavour” ส่วน “Rambas Flavour” เป็นกลิ่นของหมู่เกาะทะเลเขตร้อน ผลไม้หลากสีสันอย่างสับปะรด พีชและมะม่วงอัลฟอนโซ่ รวมเป็นกลิ่นที่ดูชะช่ากระฉับกระเฉงต่างออกไป กลิ่นสุดท้ายคือ “Karakum Flavour” เป็นเส้นทางจากทะเลดำสู่อารยธรรมเปอร์เซีย การเดินทางบนหลังอูฐ กลิ่นของทะเลทรายมองโกเลีย บวกกับส้มและเครื่องเทศหายากอย่าง Cardamom รับรองว่านี่จะเป็นประสบการณ์ใหม่ที่คุณจะได้จากการแปรงฟันแน่นอน
ที่มา : https://thematter.co